................................................................................................................................................................
สาเหตุของปัญหา
โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย ทำคลอดเฉลี่ยกว่า 900 รายต่อปี ซึ่งอาจพบปัญหาในเด็กแรกคลอด เช่น น้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ มีภาวะเสี่ยงต่อการเกิดพัฒนาการช้า ภาวะความพิการผิดรูปตั้งแต่แรกเกิด โดยเฉลี่ยจะพบเด็กที่มีปัญหาในด้านเท้าผิดรูปเฉลี่ย 5 รายต่อปี
ฝ่ายเวชกรรมฟื้นฟู เป็นหน่วยงานที่รับปรึกษาการแก้ไขภาวะความผิดปกติผิดรูปที่เท้า หรืออวัยวะอื่นๆภายหลังจากการคลอด พบว่าผู้รับบริการเด็กแรกเกิดที่ส่งมารับการแก้ไขความผิดปกติส่วนใหญ่เป็นความผิดปกติที่เท้าเช่น เท้าปุก รูปเท้าบิด นิ้วเท้าเก ซึ่งอาจส่งผลทำให้ขัดขวางพัฒนาการปกติของเด็ก เช่นการเริ่มคลาน การลุกหัดตั้งไข่ การเดินเป็นต้น อีกทั้งเด็กทารกแรกเกิดเป็นความหวังของพ่อแม่ ซึ่งหากเกิดความพิการถาวรก็จะส่งผลต่อสภาพจิตใจของผู้ปกครองด้วยและในผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุที่เกิดภาวะหลอดเลือดสมอง ที่มีภาวะอัมพาตครึ่งซีกปลายเท้าตก ขัดขวางการเดินปกติ และหากเกิดขึ้นเป็นระยะเวลานานอาจเกิดการพิการผิดรูปถาวรซึ่งทำให้ไม่สามารถกลับมาเดินได้ตามปกติได้
จากการให้บริการพบว่า ก่อนที่จะมีสูติแพทย์ การคัดกรองพบเด็กที่มีปัญหารูปเท้าผิดปกติได้รับการฟื้นฟูสภาพช้า หรือยังไม่สามารถให้บริการกายอุปกรณ์ที่ใช้แก้ไขได้เหมาะสม ต้องดัดแปลงวัสดุเพื่อทำเป็นรองเท้าแก้ไขความพิการซึ่งมีข้อจำกัดเช่น วัสดุไม่คงทน ผู้ดูแลไม่สะดวกในการเปลี่ยน ใส่ ต้องนัดมาประเมินการใส่อุปกรณ์หลายครั้ง ซึ่งอาจแก้ไขไม่ทัน ทำให้เกิดภาวะพิการผิดรูป ส่วนผู้ป่วยระยะฟื้นฟูสภาพการใช้ posterior slap เพื่อป้องกันการเกิดเท้าตกเป็นสิ่งจำเป็น แต่วัสดุสำเร็จมีราคาแพง ประมาณ 1,500 บาท และอาจไม่พอดีกับขนาดขาของผู้ป่วยแต่ละราย
เมื่อมีสูติแพทย์ และกุมารแพทย์ การคัดกรองภาวะผิดปกติผิดรูปของรยางค์พบมากขึ้น และส่งแก้ไขตั้งแต่แรกคลอด ทำให้มีการพัฒนาการผลิตวัสดุสำหรับการแก้ไขความผิดปกติ รองเท้าแก้ว ขึ้น
วัตถุประสงค์
- เพื่อพัฒนาวัสดุในการทำรองเท้าหรือวัสดุแก้ไขความพิการผิดรูปที่เท้า
- เพื่อจัดทำวัสดุแก้ไขให้รวดเร็วก่อนจำหน่ายผู้ป่วย
- เพื่อป้องกันแก้ไขความพิการที่เท้า ป้องกันภาวะพิการถาวร
- เพื่อลดต้นทุนการผลิต
- เพื่อพัฒนาเพิ่มพูนทักษะเจ้าหน้าที่ขาเทียม
- เพื่อลดความกังวลของพ่อแม่ผู้ปกครอง
- ไม่มีวัสดุอุปกรณ์ให้บริการ หรือจัดทำกายอุปกรณ์ที่เป็นมาตรฐาน
- หากต้องจัดทำผู้รับบริการต้องเดินทางไปรับบริการที่ รพ.จังหวัด ระยะทางไกลกว่า 80 กิโล
- เกิดภาวะข้อติด กล้ามเนื้อหดรั้งในรายที่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์
- ดูแลจิตใจของผู้ปกครองเมื่อลูกเกิดภาวะความผิดปกติ
- จำกัดพัฒนาการ หากเท้าผิดรูปพัฒนาการด้านอื่นๆอาจช้าไปด้วย
- สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย จัดการได้ช้า
- ลดขั้นตอนในการรับริการ
- ก่อนการพัฒนา ใช้ กล่องกระดาษ แล้วใช้เทปพัน ข้อดี ทำได้ทันที ข้อเสียไม่เหมาะสมกับรูปเท้า วัสดุไม่คงรูป
- ต่อมาใช้แผ่นเสริมรองเท้า ข้อดี วัสดุคงรูปเข้ากับรูปเท้าได้ดี ข้อเสีย ความยืดหยุ่นสูง มักจำกัดการเคลื่อนไหวได้ไม่เต็มที่
- ปัจจุบัน ใช้พีไลท์ ขึ้นรูปอบแข็งเข้ากับรูปเท้า แล้วรองด้วยพลาสติกแข็งอีก1ชั้น
- สั่งจากตัวแทนบริษัท ข้างละ 1,500 บาท
โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชด่านซ้ายทำ
- ค่าเฝือก 56 บาท
- ค่าพลาสติก 200 บาท/ขา
- ค่าพีไลท์ 50 บาท/ขา
- วัสดุสิ้นเปลือง เช่น กาว กระดาษกาว 50 บาท รวม ต้นทุนในการผลิต 356 บาท/ข้าง
- รองเท้าแก้ว 3 คู่
- เฝือกพลาสติกกันเท้าตก(AFO) 5 ข้าง
- ป้องกัน/แก้ไขการผิดรูปเท้า
- ลดความกังวลของผู้ปกครอง
- ส่งเสริมพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหว
- ลดต้นทุนในการผลิต สามารถเพิ่มรายได้ให้กับโรงพยาบาล